3.2สงครามแห่งเมืองบาดาล
[3.2 บาดาล Future -Reality10 event]
การกอบกู้ เอกราชเมืองบาดาล จาก ชนชั้นปกครอง ให้หนีกลับ ท้องฟ้า ปลดปล่อยพญานาค ผู้ดูแลเมืองบาดาลให้ กลับคืนปกติสุขสันติ ฟื้นแผ่นดินสุวรรณภพ, ภพตะวันออกและ อนุภพโผล่พ้นน้ำ โลกแห่งอนาคต พ้นยุคน้ำท่วมโลก
3.2 A
Transform to Under water world
หลังจากการผจญภัยของเหล่าเกมเมอร์ทั้งหลายในด่านสงครามในอดีตกาล นักเล่นเกมส์จากเครื่องจําลองไตรภูมิที่ผ่านด่านสุดท้าย ได้ถูกส่งไปยังโลกอนาคต พวกเขาพบว่าตัวเองอยู่ในโลกใต้ทะเล โลกแตกต่างอย่างสิ้นเชิงจากสิ่งที่พวกเขาเคยประสบมาก่อน โลกที่มืดมนและชื้นแฉะ และอากาศก็หนักด้วยฝุ่นพิษ ที่ต้องใช้เครื่องจักรควบคุม ให้สภาพแวดล้อมปกติไปเพื่อมนุษย์อาศัยอยู่ได้ ขณะที่พวกเขาสํารวจโลกใต้น้ํา พวกเขาได้เรียนรู้ว่ามันเป็นที่อยู่อาศัยของมนุษย์สองเผ่า Generoids และ Neo-Genera ทั้งสองเผ่าอยู่ในภาวะสงครามกลางเมือง โดย Generoids ต่อสู้เพื่ออิสรภาพและ Neo-Genera ต่อสู้เพื่อรักษาการปกครองของพวกเขา นักเล่นเกมส์ถูกจับได้ท่ามกลางความขัดแย้งและต้องเลือกฝ่ายที่จะสนับสนุน
ในขณะที่นักเล่นเกมบางกลุ่มบางคนเลือกที่จะเข้าข้าง Genera กลุ่ม Dr Wishและทีมของเขาตัดสินใจสนับสนุน Generoids พวกเขาเชื่อว่า Generoids สมควรได้รับอิสรภาพและการปกครองของ Neo-Genera นั้นกดขี่ข่มเหงและอยุติธรรม ทีมของ Dr Wish วางแผนการเข้าร่วมการต่อสู้เคียงข้าง Generoids โดยเสนอให้ใช้เทคโนโลยีขั้นสูงและทักษะการต่อสู้ของเกมเมอร์ในการต่อสู้สงคราม และข้อเสนอสูงสุดของ Dr Wish เสนอให้ทีมงานของเขาทํางานร่วมกับ Generoids เพื่อจัดตั้งรัฐบาลใหม่ที่ยุติธรรมและยุติธรรมสําหรับทุกคน
อย่างไรก็ตามการสร้างความเชื่อมั่นศรัทธาจาก กลุ่ม Generoids ก็ไม่ใช่เรื่องง่ายอย่างที่คิด ชาว Generoids ปฏิเสธและจับ Dr Wish และทีมผู้เล่นเกมส์ ควบคุมตัวไว้ก่อน รอการพิจารณา จากกลุ่มแกนนำและการตัดสินใจของ Aria ผู้นำแห่ง Generoids
3.2 B
The three Generian tribes of Naja to establish Naja kingdoms
ตามตํานานเล่าว่าผู้คนในอาณาจักรโบราณของสุวรรณภพล้วนเป็นลูกหลานของเผ่านาคา ซึ่งเป็นชนชาตินับถือพญานาคอาศัยอยู่ในแม่น้ําโขงตอนบน ทางตอนใต้บูรภพ รอบทะเลสาปหนองแส กล่าวกันว่าชนเผ่านาคา ได้รับพรจากเทพเจ้าด้วยสติปัญญาและพลังอันยิ่งใหญ่ เมื่อเวลาผ่านไปชนเผ่านาคาเริ่มอพยพไปทางใต้ตามแม่น้ําโขง จากต้นน้ำสู่ปากน้ำออกทะเลที่ดินแดนอาณาจักรจุลนี เมื่อชนเผ่านาคอพยพไปทางใต้จากแม่น้ำโขง พวกเขาต่างแยกกัน ออกไปสร้างบ้านแปงเมืองตามวิถึแห่งเผ่านาคา ตามแม่น้ําสาขาต่างๆของแม่น้ำโขง ตั้งแต่ ลำน้ำกก ลำน้ำอู ลำน้ำมูล ลำน้าซี และที่ลีกเข้าไปสุวรรณภพตอนเหนือ กลางสู่ ลำน้ำปิง ว้ง ยม น่าน และไปไกลจนสุดแดนตะวันตก ตั้งแต่ลำน้ำป่าสัก ลำน้ำแม่กลอง ท่าจีน และแม่น้ําเจ้าพระยา พวกเขาได้ตั้งถิ่นฐานและผสมผสานชนเผ่าพื้นเมืองรวมถึงผู้มาจากแดนไกล ชาวฮ่อแลกุลา แล้วเจริญเป็นนครรัฐและอาณาจักรในสุวรรณภพในกาลต่อมา ผู้คนในเผ่านาคาได้มีพัฒนาการทางวัฒนธรรมและประเพณีที่เป็นเอกลักษณ์ของตนเอง แต่ละนครรัฐมีรูปแบบศิลปะสถาปัตยกรรมและศาสนาที่เป็นเอกลักษณ์ของตนเอง แม้จะมีความแตกต่างเหล่านี้ พวกเขายังคงเชื่อมโยงกันด้วยบรรพบุรุษร่วมกันและความเคารพต่อเผ่านาคาและพลังในตํานาน เมื่อเวลาผ่านไปอาณาจักรเหล่านี้เติบโตในอํานาจและอิทธิพลกลายเป็นศูนย์กลางการค้าและการพาณิชย์ที่สําคัญในสุวรรณภพ ด้วยทำเลที่เป็นกึ่งกลางระหว่างโลกตะวันตกและโลกตะวันออก พวกเขามีส่วนร่วมในการทูตและการค้าซึ่งกันและกัน แต่พวกเขายังทําสงครามและมีส่วนร่วมในทางการเมืองแบบเครือญาติ แม้จะมีความขัดแย้งและการต่อสู้แย่งชิงอำนาจกัน แต่ผู้คนในอาณาจักรเหล่านี้ก็ไม่เคยลืมมรดกร่วมกันของพวกเขาในฐานะลูกหลานของเผ่านาคา พวกเขายังคงรักษาสืบสานประเพณีและความเชื่อของบรรพบุรุษของพวกเขาผ่านเรื่องราวตํานานของพญานาคาเทพ จากรุ่นสู่รุ่นเพื่อให้แน่ใจว่ามรดกของเผ่านาคา จะคงอยู่ต่อไปอีกหลายศตวรรษ
ตํานานเล่าถึงผู้ปกครองนาคา ผู้มีอํานาจที่สามารถควบคุมน่านน้ําและเรียกพายุได้ตามต้องการ พญานาคได้แหวกแผ่นดินจนเกิดเป็นสายน้ำต่างๆ ให้ลูกหลานได้อาศัยลุ่มน้ำดำรงชีวิต ดังนั้นพญานาคาจึงได้รับความเคารพและหวาดกลัวจากผู้คนซึ่งเชื่อว่าเป็นกุญแจสู่ความเจริญรุ่งเรืองและความอุดมสมบูรณ์ของแผ่นดิน เมื่ออาณาจักรเติบโตและขยายออกไป พวกเขายังคงให้เกียรติบรรพชนเผ่านาคา ผ่านพิธีกรรมและเครื่องเซ่นไหว้ เทพนาคากลายเป็นสัญลักษณ์ที่รวมเป็นหนึ่งเดียวของภูมิภาค ซึ่งเป็นเครื่องเตือนใจถึงประวัติศาสตร์และวัฒนธรรมร่วมกันของผู้คนที่อาศัยอยู่ตามลุ่มแม่น้ําของสุวรรณภพ ประวัติศาสตร์ของสุวรรณภพ มีอาณาจักรโบราณมากมายเกิดขึ้นและล่มสลายตลอดหลายศตวรรษที่ผ่านมา อย่างไรก็ตาม ในห้วงกาลเวลาหนึ่ง มีสามอาณาจักรแห่งบรรพชนนาคา ที่โดดเด่นยุคหนึ่ง คือ
ราชอาณาจักร Lanxang ก่อตั้งขึ้นโดยเจ้าชายชื่อ Fa Ngum ซึ่งถูกเนรเทศออกจากบ้านเกิดของเขาไปเติบโตในอาณาจักรขอม และเป็นพันธมิตรกับผู้นําชาวนาคากลุ่มอื่นเพื่อสร้างอาณาจักรใหม่ ภายใต้การปกครองของเขา Lanxang กลายเป็นอาณาจักรที่มีอํานาจซึ่งครอบครองดินแดนลุ่มน้ำโขงตอนกลางและลุ่มน้ำซี แดนอีสานของสุวรรณภพ
ราชอาณาจักรล้านนา ในภาคเหนือของสุวรรณภพ แห่งลำน้ำปิง วัง ยม และน่านก่อตั้งขึ้น โดยพระเจ้าเม็งราย เขารวมภูมิภาคเมืองเหนือของสุวรรณภพและสร้างเมืองหลวงใหม่ที่เชียงใหม่เข้าด้วยกัน ภายใต้การปกครองของเขา ล้านนากลายเป็นอาณาจักรที่เจริญรุ่งเรืองซึ่งขึ้นชื่อเรื่องศิลปะ วัฒนธรรม และการค้าขาย
ราชอาณาจักรสยามอยุธยา แรกเริ่มอยุธยา ก่อตั้งขึ้น โดยพระเจ้าอู่ทอง ครองดินแดนลุ่มน้ำเจ้าพระยาและลุ่มน้ำป่าสัก รวมอาณาจักรสุพรรณภูมิและละโว้ ไว้ภายใต้การปกครองของพระองค์ ในกาลรัชสมัยต่อมา พระอินทราชา (พระนครอินทร์) แห่งอาณาจักรสุพรรณภูมิ ที่ครองดินแดนลุ่มน้ำท่าจีนและแม่กลอง ยึดอำนาจอยุธยาเหนือราชวงศ์ละโว้ แล้วขยายอิทธิพล ลงใต้จนถึงเมืองพริบพรี ขึ้นเหนือถึงเมืองสุโขทัย รวมเข้าเป็นราชอาณาจักรสยามอยุธยา และเจริญกลายเป็นมหาอํานาจระดับภูมิภาคที่สําคัญ มีเศรษฐกิจเข้มแข็งและมีมรดกทางวัฒนธรรมอันยาวนาน
อย่างไรก็ตามสิ่งที่ตำนานไม่ได้บันทึกไว้ ในยุคก่อนกาลพร้อมๆกับการเจริญของเผ่านาคา ในสุวรรณภพ ได้มีเด็กทารกเชื้อสาย Genera บุตรแห่ง Dr Q แห่ง Elitherium ที่ได้มอบทารกน้อยไว้กับ พราหมณ์แห่งอาณาจักรจันทรา ได้ดูแลและเติบโต และทารกนี้คือต้นสาย สืบเผ่าพันธ์ Genera ในดินแดนสุวรรณภพ ซึ่งเขาได้ให้กำเนิดอารยธรรมใหม่ แห่งสามโลก คือการเจริญของชาว Genera ในสุวรรณภพ ที่บังเกิด กลุ่มสาย Generian ใหม่ที่เรียกว่า Genereus หรือ นักบวชผู้เป็นดัง ศาสดาพยากรณ์แห่ง สัจจะ Nexus one ในยุคต่อมา
3.2 C
Tripartite of Nexus Travelers for protecting Messianic Mission II
ย้อนเหตุการณ์ขณะที่ Dr Wish และทีมของเขามาถึง Underwater World ภารกิจที่แท้จริงของพวกเขาคือปกป้องผู้เป็น Messiah องค์ใหม่ พวกเขาเข้าใจดีว่า Generoids ได้รับความเดือดร้อนอย่างมากภายใต้การปกครองของ Neo-Genera แต่การสร้างความไว้วางใจจากบุคคลภายนอกของชาวGeneroidsอาจไม่ง่ายดาย แล้ว เหตุการณ์เป็นดังคาด พวกเขาเตรียมแผนรับมือการถูกขังในเขตกักกันและสร้างความไว้วางใจจาก Generoids ไว้ก่อนแล้ว พวกเขาตัดสินใจใช้ตํานานของ Naja ซึ่งพวกเขาได้เรียนรู้ระหว่างการเดินทางในอดีต ตามตํานานกล่าวว่าชนเผ่านาคาดั้งเดิมมาจากอุโมงค์ลึกของโลกใต้น้ํา และพวกเขามีความสามารถในการสื่อสารกับเทพเจ้าแห่งท้องทะเลได้ และด้วยทักษะเทคโนโลยีแห่งจอมเวทย์ของทีมสามารถสื่อสารเรื่องราว ในตำนานแห่งนาคา ผสานกับสร้างเรื่องราวความเชื่อว่า ทีม Dr Wish ที่เป็นดังตัวแทนเผ่านาคาจากแดนไกลผ่านอุโมงค์ลึกลับ มาสู่ยุคห้วงเวลานี้ Dr Wish และทีมแต่งกายด้วยเสื้อผ้าที่คล้ายกับชนเผ่านาคาดั้งเดิม และใช้เทคโนโลยีขั้นสูงเพื่อสร้างภาพลักษณ์ที่ลึกลับและทรงพลัง เมื่อพวกเขาเข้าใกล้ Generoids พวกเขาใช้พลังความรู้เกี่ยวกับตํานาน Naja สร้างกระแสเพื่อการได้รับความไว้วางใจ พวกเขาแสดงความสามารถในการสื่อสารกับเทพเจ้าแห่งท้องทะเล และพวกเขาสัญญาว่าจะใช้พลังของพวกเขาเพื่อช่วย Generoids ในการต่อสู้เพื่ออิสรภาพ
ข้อเสนอการเป็นสายพันธุ์ในตำนาน สร้างความสนใจให้ Aria และเธอ ต้องการพิสูจน์ความจริงให้ทีมแกนนำและประชาชนชาว Generoids เชื่อมั่น โดยการท้าทาย Dr Wish และทีม เดินทางผ่านเข้าอุโมงค์ลับแล อันลึกลับแห่ง Under water world โดยมีขุนพล Generoid ติดตามประกบและเป็นประจักษ์พยานความจริงแห่งเผ่านาคา และอีกทางเลือก คือ ทีม Dr Wish จะต้องพิสูจน์ความภักดีโดยการปฏบัติการ ลอบสังหาร เจ้าจอมหมัดเหล็ก ชาว Genera ผู้ปกครองเมืองใต้น้ำ และยึดครองปราสาทแห่งเทศาภิบาล แห่ง Elitherium ขับไล่พวก Genera กลับเมืองลอยฟ้า
3.2 D
First level, The civil war of Kong river and tributary
ในพงศาวดารล้านช้างกล่าวว่า ขุนบรม ได้ทรงแผ่ขยายอาณาจักรออกไป โดยทรงส่งโอรส 7 องค์ไปปกครองเมืองต่าง ๆ หนึ่งในเจ็ดองค์กษัตริย์นาม ขุนลอ ผู้ทรงสร้างเมืองชวา ณ ดินแดนลุ่มน้ำโขงตอนเหนือสุวรรณภพนี้ ถือกันว่าทรงเป็นปฐมกษัตริย์ของชาวไตลาวทั้งปวง ในปี พ.ศ. 1300 โดยประมาณ พระองค์ได้ทรงตั้งให้เมืองชวาเป็นราชธานีของอาณาจักรล้านช้าง พระราชทานนามราชธานีแห่งนี้ใหม่ว่า “เมืองเชียงทอง” ในระยะเวลานั้น อาณาจักรขอมมีอิทธิพลเหนืออาณาจักรเวียงจันทน์ เวียงคำ หนองหานน้อยและหนองหานหลวง
ในกาลต่อมา พระยาฟ้างุ้ม เป็นพระราชโอรสของ ท้าวผีฟ้า และเป็นพระราชนัดดาของ พระยาสุวรรณคำผง โดยในรัชสมัยของพระยาคำผง ท้าวผีฟ้า ซึ่งเป็นพระบิดาของพระยาฟ้างุ้มได้ถูกเนรเทศ จึงเสด็จหนีไปพึ่งพระบรมโพธิสมภารของกษัตริย์ขอม ในเวลาต่อมาเมื่อสิ้นรัชสมัยของพระยาสุวรรณคำผง อันเป็นช่วงเวลาที่อาณาจักรขอมเริ่มเสื่อมอำนาจ ในขณะเดียวกันที่ อาณาจักรสุโขทัยเข้มแข็งขึ้น ฝ่ายขอมต้องการคานอำนาจของสุโขทัย จึงได้สนับสนุนให้พระยาฟ้างุ้มซึ่งเสด็จติดตามพระราชบิดาไปประทับที่อาณาจักรขอมนั้น นำกำลังเข้าแย่งชิงอำนาจจาก พระยาฟ้าคำเฮียว ซึ่งเป็นพระปิตุลา (อา) ผู้ขึ้นครองราชย์สืบต่อจากพระยาสุวรรณคำผง พระยาฟ้างุ้มสามารถเอาชนะพระยาฟ้าคำเฮียวได้ จึงเสด็จขึ้นครองราชย์และสถาปนาอาณาจักรล้านช้างขึ้นอย่างเป็นทางการ นอกจากนี้เจ้าฟ้างุ้มยังได้ขยายอิทธิพลครอบครองอาณาจักรเวียงจันทน์ เวียงคำ หนองหานน้อย หนองหานหลวง ไปยังดินแดนต่างๆ อาทิ ล้านนา ตีได้เมืองเชียงแสนและเชียงใหม่เป็นเมืองส่วยบังคับส่งส่วยทุกปีซึ่งขึ้นตรงต่อเมืองหลวงพระบาง มีการยอมอ่อนน้อมและส่งบรรณาการจากเมืองเชียงรุ่ง,เชียงตุง,แสนหวี,อยุธยา,ไดเวียด เป็นต้น เนื่องด้วยเกรงกลัวอิทธิพลของเจ้ากรุงล้านช้าง กล่าวได้ว่าในยุคพระเจ้าฟ้างุ้มมหาราช ล้านช้างมีแสนยานุภาพแผ่อิทธิพลเหนือแว่นแคว้นอื่นๆได้หลายหัวเมืองใหญ่ๆและเป็นยุคที่ยิ่งใหญ่ที่สุดของอาณาจักร์ล้านช้างอีกด้วย
ในรัชสมัยของ พระยาฟ้างุ้ม แม้พระองค์จะได้สร้างความเป็นปึกแผ่นมั่นคงและยิ่งใหญ่ให้กับอาณาจักรล้านช้าง ต่อมาในปี พ.ศ. 1899 เกิดปัญหาภายในหลวงพระบางส่งผลทำให้เจ้าฟ้างุ้มถูกเนรเทศออกจากเมืองหลวงพระบางและขุนนางได้อัญเชิญพระยาอุ่นเฮือนพระราชโอรสขึ้นครองราชย์สืบต่อจากพระราชบิดา ส่วนพระยาฟ้างุ้มได้เสด็จมาประทับอยู่ ณ เมืองน่าน กระทั่งสิ้นพระชนม์ในปี พ.ศ. 1916
3.2 E
Second level, The civil war of Choapraya river and tributary
พงศาวดารล้านช้างที่ว่าขุนบรมได้ให้กำเนิดบุตรเจ็ดคนไปครองเมืองต่าง ๆ โดยคนที่ห้าคือ "งั่วอิน" ได้ครองเมืองอโยธยา ลูกหลานขุนบรม นามขุนอิน ได้ยพยพ จากลุ่มน้ำโขง เริ่มตั้งถิ่นฐานบริเวณสุวรรภพตอนกลางบริเวณลุ่มแม่น้ำแม่กลอง ท่าจีนและของลุ่มแม่น้ำเจ้าพระยาตอนล่าง เจริญเป็นอาณาจักรสุพรรณภูมิ ขณะที่อีกฟากฝั่งลุ่มน้ำเจ้าพระยา แม่น้ำลพบุรีและแม่น้ำป่าสัก เป็นเขตอาณาจักรละโว้ (ลพบุรี) ส่วนทางเหนือเป็นอาณาจักรสุโขทัย และล้านนา ตะวันออกเป็นอาณาจักรล้านช้าง ตะวันออกเฉียงใต้ เป็นอาณาจักรขอม
ต่อมา ราวปลายพุทธศตวรรษที่ 19 อาณาจักรขอมและสุโขทัยเริ่มเสื่อมอำนาจลง ได้มีการรวมอำนาจกันระหว่างอาณาจักรละโว้และอาณาจักรสุพรรณภูมิ โดยสมเด็จพระเจ้าอู่ทองจึงทรงย้ายราชสำนักมายังที่ราบลุ่มน้ำท่วมถึงอันอุดมสมบูรณ์ของแม่น้ำเจ้าพระยา บริเวณหนองโสนบนเกาะที่ล้อมรอบด้วยแม่น้ำ ซึ่งเป็นนครท่าเรือเดินทะเล ชื่อ อโยธยา นครใหม่นี้ได้รับการขนานนามว่า กรุงพระนครศรีอยุธยา หรือ อโยธยาศรีรามเทพนคร ซึ่งภายหลังมักเรียกว่า กรุงศรีอยุธยา แปลความหมายว่า นครที่ไม่อาจทำลายได้ ในกาลรัชสมัยต่อมา พระอินทราชา (พระนครอินทร์) แห่งอาณาจักรสุพรรณภูมิ แห่งลุ่มน้ำท่าจีนและแม่กลอง ยึดอำนาจอยุธยาเหนือราชวงศ์ละโว้ แล้วขยายอิทธิพล ลงใต้จนถึงเมืองพริบพรี ขึ้นเหนือถึงเมืองสุโขทัย รวมเข้าเป็นราชอาณาจักรสยามอยุธยา หรือล้านเพีย
จุดความเจริญสูงสุด แห่งราชอาณาจักรสยามอยุธยา ขยายอิทธิพล ครอบครองอาณาจักรล้านช้าง ล้านนา อาณาจักรขอม และแผ่ขยายอำนาจลงใต้ เหนืออาณาจักรนครศรีธรรมราช อาณาจักรปาตานี และมลายู ต่อมาถูกรุกรานจนตกเป็นประเทศราชราชอาณาจักรตองอู และอังวะ การเสียกรุงครั้งที่ 2 แม้ว่าจะเป็นระยะเวลาไม่นาน แต่มีความเสียหายรุนแรง จนต้องย้ายมาสร้างอาณาจักรธนบุรี และอาณาจักรรัตนโกสินทร์ในระยะต่อมา
3.2 F
Next level, The civil war of Sky river and tributary on the Elitherium
ในครั้งแรก Generoids มีข้อสงสัยความร่วมมือกับทีม Dr Wish แต่เมื่อพวกเขาเห็นพลังของ Dr. Wish และทีมของเขาในการต่อสู้ Level 1 (The civil war of Kong river and tributary) และ Level 2 (The civil war of Choapraya river and tributary ) พวกเขาเริ่มเชื่อในความสามารถของ ทีม Dr Wish และเป็นพันธมิตรในการต่อสู้ร่วมกัน ด้วยศรัทธาของตํานานนาคาและเทคโนโลยีขั้นสูง Dr Wish และทีม ช่วยให้พวกเขาชนะสงครามกับ Neo-Genera ในศึกยึดเมืองบาดาล จากจอมทัพกำปั้นเหล็ก และด่านสำคัญคือการยึดเมืองลอยฟ้า Elitherium
การผสานพลัง Generoid กลุ่มกบฏ Aria และชนเผ่านาคา คือนาคดิน นาคน้ำและนาคฟ้า รวมทั้งเหล่าเกมเมอร์ กลศึกสำคัญแยกโจมตี 3 ทาง 3 ทัพ คือสงครามกองโจร และบ่อนทำลายภายใน โดยกลุ่มกบฏ Aria ผสานกับกองทัพชาวนาคดิน กลุ่มนาคฟ้าและเกมเมอร์ทัพอากาศบุกสายฟ้าแล็บทางอากาศและกลุ่มนาคน้ำ บุกทางใต้น้ำ ยังฐานรากของนคร Elitherium จุดนัดหมาย D-day ก่อนพระอาทิตย์โผล่พ้นขอบฟ้า ภายใต้อาณ้ติสัญญาณการระเบิด ฟ้าฟาด ระเบิดใต้น้ำ จบด้วยระเบิด big bomb 10 จุดรอบ Capital Towers of Elitherium ที่เป็นเหมือนขุมพลังควบคุมเมืองบาดาลไว้ใต้อำนาจ เป้าหมายศึกครั้งนี้คือ การปลดปล่อยเมืองบาดาล