มิติที่ 3.1วิกฤติรุนแรง ช่วง เสียกรุงอยุธยา กับการกำเนิด รัตนโกสินทร์
ย้อนกลับไปห้วงเวลา ราชอาณาจักรขแมร์หรือกัมพูชาเจริญเข้าสู่สมัยเมืองพระนคร โดยยโสวรมันที่๑ ได้สร้างเมืองหลวงใหม่ ที่พนมบาเค็งชื่อ ยโศธรปุระ และอัญเชิญเทวราชจากหริหราลัยมายังนครแห่งใหม่และสร้างเทวาลัยที่พมนกัดาล หลังจากนั้นจักรวรรดิ์ขแมร์ก็เข้าสู่ ช่วงเสื่อมภายในราชสำนักแย่งชิงอำนาจของสายราชวงศ์ที่ต่างสายกัน จนกระทั่งสมัยชัยวรมันที่ ๔ ได้ฟื้นฟูราชประเพณี ตรีกรณียกิจ ที่สร้างบารายและปราสาทบนภูเขา เทวาลัยของพระรองปัจจุบันเรียกปราสาทธม ต่อมาสมัยชัยวรมันที่ ๕ เริ่มมีการสร้าง วิหารตนเองในหมู่ขุนนางและพราหมณ์ หลังจากนั้นจักรวรรดิ์ขแมร์ก็เข้าสู่ช่วงเสื่อมภายในราชสำนักแย่งชิงอำนาจอีกรอบโดยรอบนี้ ได้มีกษัตริย์องค์ใหม่ที่ไม่ทราบสายราชวงศ์แน่ชัดยึดอำนาจในจักรวรรดิขแมร์ในนาม สุริยวรมันที่ ๑ พระองค์ยกทัพมาทางเรือเข้า ยึดเมืองพระนคร พระองค์ทรงส่งเสริมพุทธศาสนามหายาน และมีความเจริญทางการค้าทั้งท้องถิ่นและโพ้นทะเล ถือว่าเป็นยุคเจริญ สูงสุดหลังยุคสุริยวรมันที่๑ สายราชวงศ์ต่างๆผลัดเปลี่ยนกันครองอำนาจจนกระทั่งกษัตริย์ชัยวรมันที่๖ เป็นเชื้อสายมหินธรปุระเข้า ยึดอำนาจแต่ไม่นาน กษัตริย์ใหม่นาม สุริยวรมันที่ ๒ ได้ยึดครองอำนาจในยุคสมัยรวมขแมร์เป็นหนึ่งเดียวคือขแมร์พื้นราบต่ำหรือศูนย์กลางเมืองพระนครและขแมร์พื้นที่สูงหรือพิมายและพนมรุ้ง สุริยวรมันที่ ๒ มีนโยบายทำสงครามขยายอาณาเขตไปที่จามและเวียตน้ำ โดยได้กลุ่มละโว้และเสียมกุกเป็นพันธมิตรสำคัญ หลังจากนั้นเมืองพระนคร ต้องทำสงครามรบพุ่งกับพวกจาม เวียตน้ำ ในยุคสมัยสุรยวรมันที่ ๒ รนับถือศาสนาพราหมณ์แต่บูชาพระวิษณุ เริ่มสร้างปราสาทนครวัตหรือปราสาทพิษณุเทวลัยที่เมืองพระนครแต่พระองค์ สวรรคตก่อนที่ปราสาทจะเสร็จ หลังสมัยสุริยวรมันที่ ๒ ถึงสมัยยโศวรมันที่๒ มีการก่อกบฏ๒ครั้งคือกบฏราหูและกบฏขุนนางโดยขุนนางนามว่า ไตรภูวนาทิตยวรมันเป็นกษัตริย์แต่ไม่นานถูกพวกจาม บุกยึดเมืองพระนคร ซึ่งเป็นช่วงเวลาที่เหมาะสมที่ชัยวรมันที่ ๗ ที่ลี้ภัยอยู่ที่ จาม ถือโอกาสเข้าช่วยขแมร์ปราบจาม และยึดอำนาจเป็นกษัตริย์แห่งจักรวรรดิขแมร์อีกครั้ง และย้ายเมืองหลวงไปนครธม สร้าง ปราสาทนครธมที่เป็นพุทธมหายาน อีกครั้งและพระองค์ก็สนับสนุนให้ประชาชน ไพร่ ทาส นับถือพุทธเถรวาทได้และขยายเมือง ลูกหลวงที่สำคัญ คือละโว้ และสุโขทัย เพื่อเชื่อมการค้ากับผืนแผ่นดินทั่วสุวรรณทวีปและนำสู่เมืองท่าทางทะเลที่สำคัญอีกครั้ง
ภายหลังที่จักรวรรดิขแมร์ เสื่อมอำนาจ อาณาจักรต่างๆทั้งใหญ่และเล็กในสุวรรณภูมิได้เป็นอิสระต่อกัน และต่างพยายาม รักษาผลประโยชน์ตนเองและก่อสงครามแย่งชิงผู้คนและอาณาเขต อย่างไรก็ตามในช่วงเวลานี้ แบ่งอาณาเขตอาณาจักรใหม่ได้ดังนี้
สุวรรณภูมิตะวันตก มีการเปลี่ยนจาก อาณาจักรพุกาม(Pagan) ขยายอำนาจและอาณาเขตในดินแดนเดิมอาณาจักรศรีเกษตรแตกเป็น อาณาจักรตองอู แถบลุ่มน้ำสาละวินและอาณาจักรมอญ ขยายอำนาจและอาณาเขตในลุ่มและอิระวดี
สุวรรณภูมิตอนใต้ อาณาจักรมัชปาหิต ที่เป็นเชื้อสายผสมผสานอินโดมลายู (เป็นชาวพื้นเมืองมลายู จามและผู้คนจากอินเดียตอนใต้คือทมิฬโจฬะอาแจะ กลิงค์) ขยายอำนาจแทนอาณาจักรศรีวิชัยครอบคลุมอาณาเขตแหลมทองตอนใต้และดินแดนเกษียรสมุทร มีศูนย์กลางอำนาจที่เกาะชบาทวีปหรือชวา มีอิทธิพลเป็นศูนย์กลางการค้าทางทะเลที่สำคัญ ภายหลัง อาณาจักรมัชปาหิต อ่อนแอลงทำให้เกิดอาณาจักรศิริธรรมและแคว้นปัตตานี และรัฐเล็กรัฐน้อยในแหลมทองตอนใต้หรือแหลมมลายู ในส่วน อาณาจักรศิริธรรมที่ต่อมาล่มสลายจากโรคระบาด และภายหลังได้กษัตริย์เชื้อสายราชวงศ์ไศเรนทร์จากพริบพรี(เพชรบุรี) มาตั้งเมืองใหม่คือศรีธรรมราช (นครศรีธรรมราช) ส่วนดินแดนสุวรรณภูมิตะวันออกสุดแบ่งเป็น อาณาจักรจามทางเขตตอนใต้และอาณาจักรเวียตน้ำทางตอนเหนือ
ส่วนอาณาจักรของเชื้อสายอ้ายไตลาว ที่พูดภาษาไต-กะได แบ่งเป็น๓อาณาจักรคือดินแดนสุวรรณภูมิเหนือ อาณาจักรล้านนา ได้รวบรวมแว่น แคว้นลุ่มน้ำโขงตอนบน ลุ่มน้ำกก ปิง วัง ยม น่าน ซึ่งส่วนใหญ่เป็นเชื้อสายอ้ายไตลาว ได้แก่เชียงแสน เชียงรุ่ง เชียงตุง ๑๒จุไท หริภุญชัย หิรัญเงินยาง เมืองมาว เมืองแพร่ เมืองน่าน แล้วตั้งเมืองหลวงแห่งใหม่คือเชียงใหม่ ส้วนอาณาจักรล้านช้างได้รวบรวมแว่นแคว้น ลุ่มน้ำโขง ซี มูน อ้ายไตลาวเชียงทอง อ้ายไตลาวเวียงจันทน์ และแคว้นจำปาศักดิ์(เดิมรวมกันอยู่ในอาณาจักรศรีโคตรบอง) และอาณาจักรล้านเพีย หรือสยาม ดินแดนของอ้ายไตลาวสายทวาราวดีหรือมอญได้รวบรวมแว่นแคว้นแม่น้ำท่าจีน หรือแม่กลอง ลุ่มน้ำเจ้าพระยา ลุ่มน้ำป่าสัก ได้แก่สุพรรณภูมิ ละโว้ พิษณุโลก สุโขทัย พริบ พรีแ มีเมืองหลวงคืออโยธยา เรียกใหม่ว่าอาณาจักรอโยธยา เริ่มเรียกตนเองว่าคนไท เรียกดินแดนที่อยู่ว่า สยาม
อโยธยาได้รับการสนับสนุนจากอาณาจักรเจ็ก ทำให้สายราชวงศ์สุพรรณภูมิครองอำนาจ ขณะที่อาณาจักรขแมร์เมื่ออ่อนกำลังลง จึงถูกล้านเพียหรืออโยธยาหรือสยาม รุกรานกลับกวาดต้อนชนชั้นปกครองกษัตริย์ พราหมณ์ มาอโยธยาและปล่อยให้พวกชาวพื้นเมืองหรือชาวบ้านที่ก่อกบฎและปราบดาตนเป็นกษัตริย์ยุคใหม่ เป็นขแมร์จตุรมุข ขแมร์ละแวก ขแมร์ศรีสุนทร และขแมร์อุดง ...
อโยธยาเป็นเมืองท่าการค้าที่เป็นศูนย์กลางการเชื่อมการค้าทางบกและทางทะเลของสุวรรณภูมิ จึงมีความมั่งคั่ง และมั่นคงด้วยขีดความสามารถทางทหารคุ้มกันการค้า และรูปแบบการปกครองที่นำมาจากจักรวรรดิ์ขแมร์ จึงขยายอำนาจอาณาเขตปกครอง ประเทศราชต่างๆได้แก่ อาณาจักรล้านนา อาณาจักรขแมร์ใหม่ อาณาจักรมอญ อาณาจักรศรีธรรมราช อาณาจักรปัตตานี และไทรบุรี ทั้งนี้เพื่อคงไว้ในการควบคุมเส้นทางการค้า ทางบกและทางทะเล ...
ขณะเดียวกันอาณาจักรตองอู เริ่มเข้มแข็งจากการรบชนะอาณาจักรมอญ ยะไข่ อารกัน ผนวกรวมเป็นอาณาจักรตองอู ส่วน อาณาจักรล้านนา มีสถานะเป็นประเทศราชของตองอู และเมื่อตองอูควบคุมการค้าเมืองท่าเมาะตะมะ สู่ดินแดนตอนเหนือสุวรรณภูมิ ผ่านล้านนา จึงเริ่มมั่งคั่งและขยายอำนาจแข่งกับอาณาจักรอโยธยา ในที่สุดเมื่ออโยธยาอ่อนแอ ราชวงศ์แตกแยกจึงตกเป็น ประเทศราชตองอู แต่ไม่นานก็สามารถกลับมาเป็นอิสระและคงอำนาจไว้ได้เช่นเดิมและเจริญรุ่งเรืองเป็นเมืองท่านานาชาติ มีการติดต่อการค้ากับทั้งเจ็ก อินเดีย เปอร์เซีย และยุโรป
ส่วนตองอูถูกมองโกลรุกรานเสื่อมลง แยกเขตตะวันนตกสุวรรภูมิ เป็นอาณาจักรอังวะและมอญ ต่อมา อังวะเริ่มเข้มแข็ง และกลับมารุกรานอโยธยา จนอโยธยาล่มสลายครั้งที่ 2 ดินแดนสยามจึงแตกเป็นก๊กต่างๆ แย่งชิงอำนาจกัน ในที่สุดก๊กพระยาตากสิน ก็สามารถตีก๊กต่างๆ และผลักดันทหารอังวะออกจากอโยธยา แล้วตั้งอาณาจักรธนบุรีกลับมาครองอำนาจรวมล้านนา ล้านช้าง นครศรีธรรมราช ปัตตานี ไทรบุรีและขแมร์อุดง เป็นประเทศราช ต่อมาธนบุรีเกิดกบฎ สังหารพระเจ้ากรุงธนบุรี(ตากสิน) สถาปนาอาณาจักรรัตนโกสินทร์ หรือราชอาณาจักรสยามที่ควบคุมสุวรรณภูมิตอนเหนือตอนกลางและตอนใต้ ได้อย่างมั่นคง...
มิติที่ 3.2 วิกฤติรุนแรง ช่วง เสียดินแดน รัตนโกสินทร์ กับการกำเนิดสหพันธรัฐชาติใหม่
ช่วงเวลานี้เป็นช่วงที่ชนชาติยุโรปตะวันตก มีความเจริญแบบก้าวกระโดดจากการปฏิวัติวิทยาศาสตร์ จึงมีการสร้างอาวุธ ใหม่ๆที่มีประสิทธิภาพสูง เกิดกองเรือรบคู่กับกองเรือสินค้า และการเผยแพร่ศาสนาคริสต์ ภายใต้ยุทธศาสตร์ขยายอิทธิพล อาณานิคมของยุโรป เกิดจักรวรรดิครอบครองดินแดนตะวันออกและการสำรวจดินแดนโลกใหม่ทางตะวันตก มีการแข่งขันและการ แบ่งเขตอิทธิพล ของฝรั่งเศส อังกฤษ ฮอลันดา โปรตุเกสและสเปญ ไปทั่วโลก อังกฤษยึดครองอาณานิคม เอเชียตั้งแต่ อินเดีย อัง วะ สิงคโปร์ มลายู และเจ็ก ฝรั่งเศสครอบครองล้านช้าง จาม เวียตน้ำ และขแมร์ รวมเรียกอินโดจีน โปรตุเกสครอบครองเกาะฟิลิปิ นส์ ฮอลันดาครอบครองเกาะชวา และสุมาตรา คงไว้แต่ราชอาณาจักรสยามที่เป็นรัฐกันชน และสิ่งที่พวกตะวันตกได้ทำไว้คือการแบ่ง แยกชาวอ้ายไตลาว และชาวสุวรรณภูมิเดิมที่เกี่ยวพันเป็นเครือญาติ มีวัฒนธรรมพุทธศาสนาเถรวาทเป็นหลักยึด ให้เป็นคนเชื้อชาติ ที่แตกต่างกัน เป็นรัฐชาติ ไทยสยาม ลาว เขมร พม่า เวียตนาม มาเลเซีย อินโดนีเซีย บรูไน ฟิลิปปินส์และสิงคโปร์ ในปัจจุบัน...
มิติที่ 3.3 วิกฤติรุนแรง ช่วง เปลี่ยนแปลงการปกครอง กับการกำเนิด ประชาธิปไตย